หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ประเภทของหมวกกันน็อค

หมวกกันน็อคนั้นเป็นได้ทั้งเครื่องป้องกันที่สำคัญ และยังสามารถเป็นเครื่องประดับขณะขับขี่ได้อีกด้วย ก่อนจะเลือกซื้อหมวกกันน็อคสักอัน เรามาเข้าใจถึงประเภทต่างๆของหมวกกันน็อค ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการของเราที่สุดทั้งรูปร่าง ราคา และความปลอดภัย โดยหมวกกันน็อคเองก็มีอยู่หลายแบบ หลายประเภท ซึ่งถ้าแบ่งตามมาตรฐานสากลจะสามารถแบ่งได้ทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้

หมวกกันน็อคแบบเต็มหน้า (FULL FACE HELMET)

หมวกกันน็อคแบบเต็มหน้านั้นออกแบบมาให้รับกับกะโหลกศีรษะของมนุษย์ ปกป้องครอบคลุมตั้งแต่ท้ายทอยไปจนถึงปลายคาง มีช่องเจาะบริเวณตาและจมูกเพื่อให้มองเห็นและหายใจได้สะดวก ปิดด้วยกระจกบังลม ซึ่งอาจมีสีที่แตกต่างกันออกไป แต่กฎหมายไทยระบุว่ากระจกบังลมต้องใสพอจะมองเห็นใบหน้าผู้ขับขี่ได้ ไม่เช่นนั้นก็อาจโดนปรับเช่นกัน นอกจากนี้ หมวกกันน็อกชนิดเต็มใบหน้ายังมีผลการวิจัยชี้ว่าสามารถปกป้องผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผู้เสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์มักบาดเจ็บที่บริเวณคางมากถึง 35 เปอร์เซ็นต์ เป็นทรงยอดนิยม สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน


หมวกกันน็อคแบบออฟโร้ดหรือแบบมอเตอร์ครอส (OFF ROAD, MOTOCROSS HELMET)

หมวกกันน็อคชนิดนี้ดัดแปลงมาจากแบบเต็มหน้าเพื่อใช้ขี่แบบออฟโร้ดโดยเฉพาะ เน้นความโปร่งสบายพร้อมกระบังยื่นด้านหน้าเพื่อช่วยบังแดด มองทางข้างหน้าได้ชัดเจน มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับแบบเต็มหน้า โดยเพิ่มส่วนบังแดดและยืดบริเวณที่ปิดคางออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันโคลนที่ปลิวมาขณะขับขี่ แต่ได้ถอดกระจกบังลมออกเพื่อให้อากาศผ่านได้สะดวก ซึ่งผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะเลือกสวมแว่นตาครอบเพื่อป้องกันโคลนที่ปลิวเข้ามาด้วย

หมวกกันน็อคแบบเต็มใบหรือเปิดหน้า (OPEN FACE HELMET)

ในต่างประเทศเรียกหมวกชนิดนี้ว่าแบบ 3/4 ซึ่งก็เรียกตามรูปร่างของมันคือครอบคลุมหัวเพียง 3 ใน 4 เท่านั้น แต่เป็นหมวกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แม้ว่าจะไม่สามารถปกป้องได้ทั้งใบหน้าก็ตาม หมวกชนิดนี้ จะมีกระจกบังลมครอบทั้งใบ ซึ่งช่วยป้องกันฝุ่นและแมลงที่อาจรบกวนการขับขี่ของเราได้ แต่จะต่างกับแบบเต็มหน้าที่ไม่มีที่กันคาง เด่นที่ความสะดวกสบายในการสวมใส่และการถอดออก

หมวกกันน็อคแบบโมดูลา (MODULAR HELMET)

เป็นหมวกกันน็อกรูปร่างแบบเดียวกับแบบเต็มใบ แต่สามารถพับส่วนคางขึ้นมาได้ พัฒนามาจากแบบเต็มใบซึ่งไม่มีที่ปิดคาง โดยหมวกชนิดนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่ตำรวจในต่างประเทศ เพราะสามารถเปิดบริเวณปากเพื่อพูดคุยหรือแม้กระทั่งกินอาหารได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดหมวก และยังให้การปกป้องบริเวณคางเช่นเดียวกับแบบเต็มหน้าอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามหมวกชนิดนี้ยังมีมาตรฐาน 2 แบบได้แก่ –P ซึ่งแปลว่าออกแบบให้ปกป้องบริเวณคาง กับ –NP แปลว่าไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับบริเวณคางนั่นเอง หมวกแบบนี้เป็นแบบยุคใหม่ มีการดีไซน์ที่เน้นความทันสมัย ถูกใจขาซิ่งมานักต่อนัก แต่ในไทยตอนนี้หาซื้อค่อนข้างยาก ทำให้มีผู้ใช้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ (HALF FACE HELMET)

มีลักษณะครอบเพียงด้านบนของหัวเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนที่หน่วยงานมาตรฐานทั้ง SNELL และ DOT กำหนดเป็นขั้นต่ำสุดสำหรับผ่านมาตรฐาน โดยหมวกชนิดนี้ได้รับความนิยมช่วงยุค 1960 ปัจจุบันหลายหน่วยงานในต่างประเทศยกเลิกมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับหมวกชนิดนี้แล้ว เนื่องจากไม่สามารถปกป้องส่วนท้ายทอยซึ่งมีความสำคัญได้ รูปทรงจะออกแนวๆหน่อย ใส่สบายที่สุด อันตรายที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น